ที่มาของประโยคทอง
เรื่องก็มีอยู่ว่า..........
ผู้ชายคนหนึ่ง เค้ามีเมียสองคน วันหนึ่งเค้าก็พาเมียทั้งสองไปเที่ยวป่ากัน ทีนี้ใน
ระหว่างที่เข้าไปในป่าต้องเดินข้ามลำธาร สะพานข้ามลำธารก็ไม่มี มีแต่ท่อนไม้พาด
อยู่ท่อนเดียว ส่วนในลำธารก็มีไอ้เข้ที่กำลังหิวเพียบเลย ฝ่ายผัวก็บอกเมียทั้งสองว่า
ผัว : เดี๋ยวให้พี่ข้ามไปก่อน พี่จะไป รอรับฝั่งโน้นนะว่าแล้วคุณผัวก็เดินข้ามลำธาร
ตามท่อนไม้ไป
แต่เหตุด้วยรองเท้ามันเปื้อนดินเปียกจากการเดินเข้าป่า ปรากฎว่าเดินไปได้สักสามสี่
ก้าวก็ลื่นตกลำธาร แต่มือก็ไวตามสัญชาตญาณก็โอบกอดท่อนไม้ไว้ ส่วนขาก็ห้อย
ลงไป ไอ้เข้ตัวหนึ่งได้โอกาสก็งับขาคาบติดไว้ เมียทั้งสองก็หวีดร้องแต่ไม่รู้จะช่วยผัว
ได้อย่างไร ฝ่ายผัวก็คิดว่าตัวเองคงต้องตายแน่ๆ ก็เลยบอกเมียหลวงก่อนว่า
ผัว : น้องๆ ไหนพี่จะตายแล้ว พี่ขอดูของดีน้องหน่อย พี่จะได้ตาย ตาหลับ
เมียหลวง : ไม่ จะตายห่าแล้วยังคิด ลามกอีก!
เมียน้อย : พี่ ถ้าพี่สาวไม่ให้ดูของดี เค้า พี่ดูของน้องก็ได้ ขาวกว่าสดกว่า
ว่าแล้วเมียน้อยก็กถกกระโปรงขึ้นจนพ้นขาอ่อนให้ผัวดูของดี ฝ่ายไอ้เข้ไม่เคยเห็นของ
ดีผู้หญิงมาก่อนก็ตกใจ อ้าปากค้าง ขาผัวก็หลุดจากปากไอ้เข้ เลยรีบพลิกตัวโหนท่อน
ไม้ขึ้นมา ทำให้รอดตายไปได้ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผู้ชายรักเมียน้อย มากกว่าเมียหลวง
ส่วนการถกกระโปรงของเมียน้อยจนเห็นขาอ่อนและของดี จึงเป็นที่มาของภาษิต
โบราณที่ว่า "ล่อตะเข้" นั่นเอง
เหตุการณ์ต่อมา
หลังจากนั้นผัวจึงปีนขึ้นมาแล้วข้ามฝั่งได้ จึงสั่งให้เมียน้อยข้ามมาเป็นลำดับที่สอง
เนื่องจากเมียน้อยเอวบางร่างน้อยจึงผ่านมาได้สบาย จนถึงคราวที่เมียหลวงข้ามบ้าง
ฝ่ายผัว ที่ไม่พอใจอยู่ลึกๆจากเหตุการณ์ก่อนหน้า จึงแอบเอาขาสะกิดท่อนไม้ใน
จังหวะที่เมียหลวงกำลังข้าม ทำให้เมียหลวงหล่นลงไปทันที
ในจังหวะมี่เมียหลวงหล่นไปนั่นเอง เจ้าจระเข้ตัวเดิมก็กระโดดงับเมียหลวงเข้าไป
ทันที ฝ่ายเมียหลวงตกใจมาก จึงได้อ้อนวอนให้เมียน้อยช่วยถกกระโปรงอีกครั้ง
แต่เสียใจด้วยเมียน้อยปฎิเสธ พร้อมบอกว่า ของข้าไม่ได้มีไว้ให้เจ้าได้เชยชมแต่
อย่างใด ด้วยความผิดหวังเมียหลวงจึงคิดปลงได้ว่า
"ชีวิตของข้านี้คงจะจบสิ้นลงแล้ว ถ้าบุญของข้ายังมีอยู่ โปรดช่วยให้ข้ารอดด้วยเถิด"
ในะขณะที่เจ้าจระเข้ยักษ์กำลังบดขมเขี้ยวลงที่ร่างของนาง
แต่ทันใดนั้นด้วยผลบุญที่สั่งสมมา ก็บันดาลสิ่งอัศจรรย์ เจ้าจระเข้ได้ถุยเมียหลวง
ออกจากปาก เมียหลวงดีใจมากกับการรอดตายราวปาฎิหารย์จึงเป็นที่มาของ
"อีแก่หนังเหนียว"
หลังจากนั้นผัวจึงปีนขึ้นมาแล้วข้ามฝั่งได้ จึงสั่งให้เมียน้อยข้ามมาเป็นลำดับที่สอง
เนื่องจากเมียน้อยเอวบางร่างน้อยจึงผ่านมาได้สบาย จนถึงคราวที่เมียหลวงข้ามบ้าง
ฝ่ายผัว ที่ไม่พอใจอยู่ลึกๆจากเหตุการณ์ก่อนหน้า จึงแอบเอาขาสะกิดท่อนไม้ใน
จังหวะที่เมียหลวงกำลังข้าม ทำให้เมียหลวงหล่นลงไปทันที
ในจังหวะมี่เมียหลวงหล่นไปนั่นเอง เจ้าจระเข้ตัวเดิมก็กระโดดงับเมียหลวงเข้าไป
ทันที ฝ่ายเมียหลวงตกใจมาก จึงได้อ้อนวอนให้เมียน้อยช่วยถกกระโปรงอีกครั้ง
แต่เสียใจด้วยเมียน้อยปฎิเสธ พร้อมบอกว่า ของข้าไม่ได้มีไว้ให้เจ้าได้เชยชมแต่
อย่างใด ด้วยความผิดหวังเมียหลวงจึงคิดปลงได้ว่า
"ชีวิตของข้านี้คงจะจบสิ้นลงแล้ว ถ้าบุญของข้ายังมีอยู่ โปรดช่วยให้ข้ารอดด้วยเถิด"
ในะขณะที่เจ้าจระเข้ยักษ์กำลังบดขมเขี้ยวลงที่ร่างของนาง
แต่ทันใดนั้นด้วยผลบุญที่สั่งสมมา ก็บันดาลสิ่งอัศจรรย์ เจ้าจระเข้ได้ถุยเมียหลวง
ออกจากปาก เมียหลวงดีใจมากกับการรอดตายราวปาฎิหารย์จึงเป็นที่มาของ
"อีแก่หนังเหนียว"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น