นิทานอีสป...มั้ง
สาวสวยกำลังซักผ้าอยู่ริมน้ำนั้น แปรงซักผ้าคู่มือก็หลุดมือจมลงน้ำไป
หญิงสาวสวยก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ริมน้ำ
ทันใดนั้นเอง..เทวดาก็ลอยขึ้นมาจากผิวน้ำแล้วถามว่า
' มีปัญหาอะไรรึ '
' แปรงซักผ้าดิฉันตกลงไปในน้ำแล้ว และตรงนี้น้ำลึกมาก
ต่อไปดิฉันจะเอาอะไรไปซักผ้าหาเลี้ยงลูกสามีได้หละท่าน '
เทวดาได้ยินดังนั้นก็ดำน้ำลงไปสักพักแล้วขึ้นมาพร้อมกับแปรงซักผ้าทองคำ
' เอ้า!! แปรงซักผ้านี้ใช่แปรงซักผ้าของเจ้าใช่รึไม่ ?' เทวดาถามหญิงสาวสวย
' ไม่ใช่ค่ะ '
เทวดาก็ดำน้ำลงไปอีกครั้ง กลับขึ้นมากับแปรงซักผ้าเงิน
' เอ้า!! แล้วแปรงซักผ้านี้หล่ะใช่ของเจ้ารึไม่ ?'
' ไม่ใช่ค่ะแปรงซักผ้าของดิฉันทำจากเหล็กมีด้ามไม้เก่าๆ ไม่ใช่แปรงซักผ้าเงิน
แปรงซักผ้าทอง '
เทวดาจึงดำลงน้ำไปอีกครั้ง แล้วกลับขึ้นมาพร้อมกับแปรงซักผ้าเหล็กคู่มือหญิง
สาวสวย
' เอ้าแปรงซักผ้าของเจ้า แต่.. เราเห็นเจ้าเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ไม่โกหก เราจะให้แปรง
ซักผ้าเงิน กับแปรงซักผ้าทองคำแก่เจ้าไปด้วย เพื่อตอบแทนในการที่เจ้าเป็นคนดี '
หญิงสาวสวยจึงรับแปรงซักผ้าไว้แล้วกลับบ้านด้วยความสุข
หนึ่งเดือนต่อมา ............
ระหว่างที่หญิงสาวสวยกำลังเดินเล่นอยู่ริมน้ำพร้อมกับสามีของเธออยู่นั้น
สามีก็ลื่นตกน้ำไป หญิงสาวสวยทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้ริมน้ำ
ทันใดนั้นเทวดาองค์เดิมก็ปรากฏกายออกมาอีกครั้ง
' เอ้า!! คราวนี้เจ้ามีปัญหาอะไรรึ ' ' สามีดิฉันลื่นตกน้ำไปเมื่อกี้นี้ค่ะ '
ได้ยินดังนั้นเทวดาจึงดำน้ำลงไป และขึ้นมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่เหมือนกันกับ
พี่เคน ธีรเดช วงษ์พัวพันธุ์ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ' ผู้ชายคนนี้ใช่สามีเจ้ารึไม่ ?'
'ใช่แล้วค่ะ ' หญิงสาวสวยตอบทันที
เทวดาจึงโกรธมาก เพราะเห็นว่าหญิงสาวสวยโกหก และไม่ซื่อสัตย์เหมือนก่อน
' ขออภัยด้วยค่ะ..ท่านเทวดา มันเป็นการเข้าใจผิดค่ะ '
หญิงสาวสวยรีบชี้แจงทันใด
' ถ้าเกิดดิฉันตอบว่า..ไม่ใช่ ดิฉันเดาว่าท่านก็คงจะลงไปในน้ำอีกครั้ง แล้วกลับขึ้น
มาพร้อมกับผู้ชายที่เหมือนกับ มาริโอ้และเมื่อดิฉันปฏิเสธอีก ท่านก็คงจะดำลง
ไปอีกครั้ง แล้วนำสามีดิฉันตัวจริงขึ้นมาสุดท้าย..ท่านก็คงจะให้ผู้ชายอีก 2 คน
ดิฉันด้วย เพื่อตอบแทนที่ดิฉันไม่โกหก แต่ว่า ..... ดิฉันเป็นแค่หญิงสาวสวยจะมี
ปัญญาอะไรไปหาเงินเลี้ยงสามีพร้อมกัน 3 คนได้หล่ะค่ะ(รับไม่ไหวค่ะ ได้ทีละคน)
ดิฉันจึงจำเป็นต้องตอบว่า ใช่ ตั้งแต่แรก '
เทวดา: ' เออ!!! จริงของมึง '
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อใดที่ผู้หญิงโกหก
แสดงว่า หญิงผู้นั้นจะต้องมีเหตุผลที่จำเป็นในการโกหก และมีเจตนาดีอย่างแน่นอน
' เอ้า!! แปรงซักผ้านี้ใช่แปรงซักผ้าของเจ้าใช่รึไม่ ?' เทวดาถามหญิงสาวสวย
' ไม่ใช่ค่ะ '
เทวดาก็ดำน้ำลงไปอีกครั้ง กลับขึ้นมากับแปรงซักผ้าเงิน
' เอ้า!! แล้วแปรงซักผ้านี้หล่ะใช่ของเจ้ารึไม่ ?'
' ไม่ใช่ค่ะแปรงซักผ้าของดิฉันทำจากเหล็กมีด้ามไม้เก่าๆ ไม่ใช่แปรงซักผ้าเงิน
แปรงซักผ้าทอง '
เทวดาจึงดำลงน้ำไปอีกครั้ง แล้วกลับขึ้นมาพร้อมกับแปรงซักผ้าเหล็กคู่มือหญิง
สาวสวย
' เอ้าแปรงซักผ้าของเจ้า แต่.. เราเห็นเจ้าเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ไม่โกหก เราจะให้แปรง
ซักผ้าเงิน กับแปรงซักผ้าทองคำแก่เจ้าไปด้วย เพื่อตอบแทนในการที่เจ้าเป็นคนดี '
หญิงสาวสวยจึงรับแปรงซักผ้าไว้แล้วกลับบ้านด้วยความสุข
หนึ่งเดือนต่อมา ............
ระหว่างที่หญิงสาวสวยกำลังเดินเล่นอยู่ริมน้ำพร้อมกับสามีของเธออยู่นั้น
สามีก็ลื่นตกน้ำไป หญิงสาวสวยทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งร้องไห้ริมน้ำ
ทันใดนั้นเทวดาองค์เดิมก็ปรากฏกายออกมาอีกครั้ง
' เอ้า!! คราวนี้เจ้ามีปัญหาอะไรรึ ' ' สามีดิฉันลื่นตกน้ำไปเมื่อกี้นี้ค่ะ '
ได้ยินดังนั้นเทวดาจึงดำน้ำลงไป และขึ้นมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่เหมือนกันกับ
พี่เคน ธีรเดช วงษ์พัวพันธุ์ ตั้งแต่หัวจรดเท้า ' ผู้ชายคนนี้ใช่สามีเจ้ารึไม่ ?'
'ใช่แล้วค่ะ ' หญิงสาวสวยตอบทันที
เทวดาจึงโกรธมาก เพราะเห็นว่าหญิงสาวสวยโกหก และไม่ซื่อสัตย์เหมือนก่อน
' ขออภัยด้วยค่ะ..ท่านเทวดา มันเป็นการเข้าใจผิดค่ะ '
หญิงสาวสวยรีบชี้แจงทันใด
' ถ้าเกิดดิฉันตอบว่า..ไม่ใช่ ดิฉันเดาว่าท่านก็คงจะลงไปในน้ำอีกครั้ง แล้วกลับขึ้น
มาพร้อมกับผู้ชายที่เหมือนกับ มาริโอ้และเมื่อดิฉันปฏิเสธอีก ท่านก็คงจะดำลง
ไปอีกครั้ง แล้วนำสามีดิฉันตัวจริงขึ้นมาสุดท้าย..ท่านก็คงจะให้ผู้ชายอีก 2 คน
ดิฉันด้วย เพื่อตอบแทนที่ดิฉันไม่โกหก แต่ว่า ..... ดิฉันเป็นแค่หญิงสาวสวยจะมี
ปัญญาอะไรไปหาเงินเลี้ยงสามีพร้อมกัน 3 คนได้หล่ะค่ะ(รับไม่ไหวค่ะ ได้ทีละคน)
ดิฉันจึงจำเป็นต้องตอบว่า ใช่ ตั้งแต่แรก '
เทวดา: ' เออ!!! จริงของมึง '
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อใดที่ผู้หญิงโกหก
แสดงว่า หญิงผู้นั้นจะต้องมีเหตุผลที่จำเป็นในการโกหก และมีเจตนาดีอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น